ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรวัดจูซนจิ (Chusonji Temple)

วัดจูซนจิ (Chusonji Temple) และประวัติ

ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรที่ วัดจูซนจิ (Chusonji Temple) พร้อมประวัติอย่างละเอียด

วัดจูซนจิ (Chusonji Temple, 中尊寺) เป็นวัดพุทธในนิกายเทนได (Tendai) ตั้งอยู่ในเมืองฮิราอิซุมิ (Hiraizumi) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางศาสนาในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ในช่วงยุคเฮอัน (Heian Period) โดยมีชื่อเสียงจาก วิหารคอนจิคิโดะ (Konjikido Hall) หรือ “วิหารทองคำ” ซึ่งเป็นอาคารที่ปิดทองทั้งหลังและได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีจนคงสภาพสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน

ในปี ค.ศ. 2011 วัดจูซนจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก โดยองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของ “โบราณสถานทางวัฒนธรรมแห่งฮิราอิซุมิ” ซึ่งสะท้อนถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในญี่ปุ่นยุคโบราณ


ประวัติความเป็นมาของวัดจูซนจิ

  1. การก่อตั้งวัดในยุคเฮอัน (Heian Period)
    วัดจูซนจิก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 850 โดยพระสงฆ์ชื่อ เอ็นนิน (Ennin) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “จิโคไดชิ” ซึ่งเป็นพระสงฆ์สำคัญของนิกายเทนได ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 ขุนนางผู้ทรงอิทธิพลแห่งแคว้นโทโฮคุ ฟูจิวาระ โนะ คิโยฮิระ (Fujiwara no Kiyohira) ได้บูรณะวัดและขยายวัดให้ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยสร้างอาคารกว่า 40 แห่ง และประดับตกแต่งวิหารทองคำอย่างวิจิตรบรรจง
  2. ความรุ่งเรืองของตระกูลฟูจิวาระ
    วัดจูซนจิเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของตระกูลฟูจิวาระแห่งฮิราอิซุมิ ซึ่งมีอำนาจปกครองภูมิภาคโทโฮคุในช่วงศตวรรษที่ 12 ความมั่งคั่งของตระกูลนี้สะท้อนออกมาในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่หรูหรา โดยเฉพาะในวิหารคอนจิคิโดะ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานและสุสานของตระกูล
  3. การเสื่อมถอยและการบูรณะ
    หลังจากตระกูลฟูจิวาระล่มสลาย วัดจูซนจิถูกทิ้งร้างและทรุดโทรมลง ในช่วงยุคเอโดะ (Edo Period) วัดได้รับการบูรณะขึ้นใหม่โดยโชกุนโทกุงาวะ จนกระทั่งกลายเป็นวัดสำคัญทางศาสนาและแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน

สถาปัตยกรรมและจุดเด่นของวัดจูซนจิ

  1. วิหารคอนจิคิโดะ (Konjikido Hall)
    วิหารทองคำคอนจิคิโดะเป็นไฮไลต์สำคัญของวัดจูซนจิ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1124 ตัวอาคารทำจากไม้และปิดทองทั้งภายในและภายนอก ผนัง เพดาน และเสาทั้งหมดถูกประดับด้วยทองคำและมุก ภายในวิหารประดิษฐานพระอมิตาภะพุทธเจ้า (Amida Nyorai) พร้อมด้วยพระโพธิสัตว์และรูปปั้นของตระกูลฟูจิวาระ วิหารนี้ถูกเก็บรักษาไว้ในอาคารป้องกันพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ
  2. โถงหลัก (Main Hall)
    โถงหลักของวัดจูซนจิสร้างขึ้นในสไตล์สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ภายในประดิษฐานพระศากยมุนีพุทธเจ้า (Shakyamuni Buddha) และมีการจัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญอื่น ๆ
  3. สวนธรรมชาติรอบวัด
    วัดจูซนจิตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้และต้นสน บริเวณรอบ ๆ วัดเป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เงียบสงบ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้ทิวทัศน์รอบวัดสวยงามเป็นพิเศษ
  4. ระฆังโบราณ
    บริเวณวัดมีระฆังโบราณขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถตีระฆังเพื่อขอพรได้ เชื่อกันว่าการตีระฆังจะช่วยเสริมโชคลาภและนำความสงบสุขมาให้

การขอพรที่วัดจูซนจิ

  1. ขอพรเรื่องความสงบสุขและการบรรลุธรรม
    วัดจูซนจิเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาขอพรให้จิตใจสงบสุข และขอพรให้บรรลุธรรมตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
  2. ขอพรเรื่องโชคลาภและความสำเร็จ
    ผู้คนมักมาสักการะพระอมิตาภะพุทธเจ้าในวิหารคอนจิคิโดะเพื่อขอพรเกี่ยวกับความโชคดีและความสำเร็จในชีวิต
  3. ขอพรเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย
    การเดินชมและไหว้พระในวัดจูซนจิช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะการขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรงและปลอดภัยจากอันตราย

เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นที่วัดจูซนจิ

  • เทศกาลฮิราอิซุมิ (Hiraizumi Festival)
    จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่รำลึกถึงตระกูลฟูจิวาระและความรุ่งเรืองของฮิราอิซุมิ โดยมีการแสดงขบวนพาเหรด การแสดงศิลปะ และพิธีกรรมทางศาสนา

เวลาเปิด-ปิด และการเดินทาง

  • เวลาเปิดทำการ:
    เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. (เข้าชมวิหารคอนจิคิโดะได้ถึง 16.30 น.)
  • ค่าเข้าชม:
    ค่าเข้าชมวิหารคอนจิคิโดะ: 800 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 300 เยนสำหรับเด็ก
  • การเดินทาง:
    • โดยรถไฟ: นั่งรถไฟสาย JR Tohoku Main Line มาลงที่สถานี Hiraizumi แล้วเดินต่อประมาณ 25 นาที
    • โดยรถบัส: มีรถบัสท้องถิ่นจากสถานี Hiraizumi ไปยังวัดจูซนจิ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง

  1. การแต่งกาย:
    ควรแต่งกายสุภาพ และสวมรองเท้าที่สะดวกสบาย เนื่องจากต้องเดินขึ้นเขาและชมบริเวณวัดที่กว้างขวาง
  2. ข้อควรปฏิบัติ:
    • ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด เช่น ห้ามส่งเสียงดัง และไม่รบกวนผู้ที่มาสวดมนต์
    • ห้ามถ่ายภาพภายในวิหารคอนจิคิโดะ และควรเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
  3. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม:
    ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่วัดจูซนจิมีความสวยงามที่สุด เนื่องจากดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีจะสร้างบรรยากาศที่งดงามรอบวัด

ทำไมควรไปวัดจูซนจิ

  • ความสำคัญทางประวัติศาสตร์:
    วัดจูซนจิเป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และเป็นตัวแทนของความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในภูมิภาคโทโฮคุ
  • สถาปัตยกรรมที่งดงาม:
    วิหารคอนจิคิโดะที่ปิดทองทั้งหลังเป็นสิ่งก่อสร้างที่งดงามและหาชมได้ยาก
  • บรรยากาศเงียบสงบ:
    วัดตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น ทำให้ผู้มาเยือนได้รับความสงบและผ่อนคลาย

การมาเยือน วัดจูซนจิ (Chusonji Temple) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติรอบวัด หากคุณมีโอกาสเดินทางไปยังภูมิภาคโทโฮคุ อย่าลืมแวะมาสักการะและไหว้ขอพรที่วัดจูซนจิเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตค่ะ 🌸✨

Previous Article

แนวทาง "หวยฮานอย" ฮานอยวันนี้ 20/01/67

Next Article

"ตรุษจีน 2568" ปีมะเส็ง วันจ่าย-วันไหว้-วันเที่ยว