ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรวัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple)

วัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple) และประวัติ

ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรที่ วัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple) พร้อมประวัติอย่างละเอียด

วัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple, 平等院) ตั้งอยู่ในเมืองอุจิ (Uji) จังหวัดเกียวโต เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน โดยจุดเด่นของวัดคืออาคาร โฮโอโดะ (Hoodo หรือ Phoenix Hall) ที่สะท้อนผิวน้ำในบึงด้านหน้าอย่างงดงาม ซึ่งภาพของอาคารนี้ถูกนำไปใช้บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น นอกจากนี้วัดเบียวโดอินยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994


ประวัติความเป็นมาของวัดเบียวโดอิน

  1. ยุคเฮอัน: การก่อตั้งในปี ค.ศ. 998
    เดิมทีพื้นที่ของวัดเบียวโดอินเคยเป็นวิลล่าส่วนตัวของ ฟุจิวาระ โนะ มิจินางะ (Fujiwara no Michinaga) ซึ่งเป็นขุนนางผู้ทรงอำนาจในยุคเฮอัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1052 ลูกชายของเขา ฟุจิวาระ โนะ โยรินางะ (Fujiwara no Yorimichi) ได้เปลี่ยนวิลล่าแห่งนี้ให้เป็นวัดพุทธในนิกายโจโด (Jodo) ซึ่งมีแนวคิดเกี่ยวกับสวรรค์ในพระพุทธศาสนา
  2. การสร้างอาคารโฮโอโดะ (Phoenix Hall)
    ในปี ค.ศ. 1053 อาคารโฮโอโดะ หรือที่เรียกกันว่า หอวิหคเพลิง ได้ถูกสร้างขึ้น อาคารนี้ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนพระราชวังในแดนสุขาวดี โดยมีปีกด้านข้างยื่นออกไปสองฝั่งคล้ายกับปีกของวิหคเพลิง (นกฟีนิกซ์) และบนยอดหลังคามีรูปปั้นวิหคเพลิงสีทองตั้งอยู่
  3. การรอดพ้นจากสงครามและภัยพิบัติ
    วัดเบียวโดอินเป็นหนึ่งในไม่กี่วัดที่รอดพ้นจากภัยพิบัติและสงครามต่าง ๆ ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ทำให้อาคารโฮโอโดะที่เห็นในปัจจุบันยังคงมีสภาพใกล้เคียงกับเมื่อแรกสร้าง และกลายเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
  4. การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
    ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัดเบียวโดอินได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มวัดและศาลเจ้าที่เกียวโตในปี ค.ศ. 1994

สถาปัตยกรรมและจุดเด่นของวัดเบียวโดอิน

  1. อาคารโฮโอโดะ (Phoenix Hall)
    อาคารนี้เป็นอาคารหลักและเป็นสัญลักษณ์ของวัดเบียวโดอิน สร้างด้วยไม้และเคลือบด้วยสีแดงสดใส ด้านหน้าของอาคารมีบึงน้ำขนาดใหญ่ชื่อว่า อาจิโจอิเกะ (Ajijō-ike Pond) ซึ่งช่วยสะท้อนเงาของอาคารให้ดูราวกับว่าลอยอยู่กลางน้ำ ภายในอาคารประดิษฐาน พระอมิตาภพุทธะ (Amida Nyorai) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักขนาดใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น
  2. สวนญี่ปุ่นแบบโจโด
    สวนรอบวัดออกแบบตามแนวคิดของสวนญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ซึ่งเป็นสวนแบบโจโดที่จำลองภาพของแดนสุขาวดี ทัศนียภาพโดยรอบประกอบด้วยบึงน้ำ สะพาน และต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความรู้สึกสงบและร่มรื่น
  3. หอระฆัง (Bell Tower)
    หอระฆังของวัดเบียวโดอินเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญ ภายในมีระฆังสัมฤทธิ์โบราณซึ่งใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา
  4. พิพิธภัณฑ์เบียวโดอิน
    ภายในบริเวณวัดยังมีพิพิธภัณฑ์เบียวโดอิน (Byodo-in Museum Hoshokan) จัดแสดงวัตถุโบราณที่สำคัญของวัด เช่น พระพุทธรูป รูปปั้นวิหคเพลิง (ฟีนิกซ์) ที่เคยประดับบนยอดหลังคา และเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวัด

การขอพรที่วัดเบียวโดอิน

  1. ขอพรเรื่องความสงบสุขและการบรรลุธรรม
    เนื่องจากวัดเบียวโดอินเป็นวัดในนิกายโจโด ซึ่งมีแนวคิดเกี่ยวกับการบรรลุธรรมและความสุขในแดนสุขาวดี ผู้คนจึงนิยมมาขอพรให้ชีวิตมีความสงบสุข และสามารถบรรลุธรรมได้ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
  2. ขอพรเรื่องความโชคดีและความสำเร็จ
    การสักการะพระอมิตาภพุทธะที่ประดิษฐานอยู่ในอาคารโฮโอโดะ เชื่อว่าจะนำความโชคดีและความสำเร็จมาให้กับผู้ที่มาขอพร

เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นที่วัดเบียวโดอิน

  • เทศกาลดอกซากุระบาน
    ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน) วัดเบียวโดอินจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมความงดงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่งรอบ ๆ บึงน้ำ
  • เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี
    ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (พฤศจิกายน) วัดเบียวโดอินจะเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงสดที่สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบและงดงาม

เวลาเปิด-ปิด และการเดินทาง

  • เวลาเปิดทำการ:
    เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.30 น.
    (พิพิธภัณฑ์เปิดเวลา 09.00 – 17.00 น.)
  • ค่าเข้าชม:
    • เข้าชมวัดและสวน: 600 เยน
    • เข้าชมพิพิธภัณฑ์: 300 เยน
  • การเดินทาง:
    • โดยรถไฟ: นั่งรถไฟสาย JR Nara Line จากสถานี Kyoto มาลงที่สถานี Uji แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
    • โดยรถบัส: มีรถบัสหลายสายที่วิ่งผ่านบริเวณวัด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถบัสจากสถานีเกียวโตได้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง

  1. การแต่งกาย:
    ควรแต่งกายสุภาพ และสวมรองเท้าที่สะดวกสบาย เนื่องจากต้องเดินชมบริเวณวัดและสวนที่ค่อนข้างกว้างขวาง
  2. ข้อควรปฏิบัติ:
    • ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด เช่น ห้ามส่งเสียงดัง และไม่รบกวนผู้ที่มาสวดมนต์
    • ห้ามถ่ายภาพในบริเวณที่มีป้ายห้ามถ่ายภาพ และควรเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
  3. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม:
    ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่วัดเบียวโดอินสวยงามที่สุด เนื่องจากดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้บรรยากาศโดยรอบดูงดงามเป็นพิเศษ

ทำไมควรไปวัดเบียวโดอิน

  • ความสำคัญทางประวัติศาสตร์:
    วัดเบียวโดอินเป็นวัดที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในวัดไม่กี่แห่งที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมยุคเฮอันเอาไว้อย่างสมบูรณ์
  • สถาปัตยกรรมที่งดงาม:
    อาคารโฮโอโดะที่สะท้อนผิวน้ำในบึงสร้างภาพที่งดงามจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก
  • บรรยากาศเงียบสงบ:
    วัดเบียวโดอินเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนจิตใจ และชื่นชมความงามของธรรมชาติและศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

วัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple) เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกียวโต ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถาปัตยกรรมที่งดงาม และบรรยากาศที่เงียบสงบ หากคุณต้องการสัมผัสความงามของศิลปะญี่ปุ่นโบราณและไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล วัดเบียวโดอินคือจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบค่ะ 🌸✨

Previous Article

เปิด 10 อันดับ "เลขเด็ด" 17/1/68 ขายดีเกลี้ยงแผง!!

Next Article

แนวทาง "หวยฮานอย" ฮานอยวันนี้ 01/01/67