ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรวัดโทไดจิ (Todaiji Temple)

วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) และประวัติ

ตะลุยญี่ปุ่น ไหว้ขอพรที่ วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) พร้อมประวัติอย่างละเอียด

วัดโทไดจิ (Todaiji Temple, 東大寺) ตั้งอยู่ในเมืองนารา (Nara) เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่มีชื่อเสียงและสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงจาก วิหารไดบุทสึเด็น (Daibutsuden Hall) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998 วัดโทไดจิเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในยุคโบราณ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก


ประวัติความเป็นมาของวัดโทไดจิ

  1. การก่อตั้งวัดในยุคนารา (Nara Period)
    วัดโทไดจิก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 752 ในยุคนารา ซึ่งเป็นช่วงที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในญี่ปุ่น วัดถูกสร้างขึ้นภายใต้คำสั่งของจักรพรรดิโชมุ (Emperor Shomu) เพื่อเป็นศูนย์กลางของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศผ่านศาสนา จักรพรรดิโชมุเชื่อว่าการสร้างวัดและพระพุทธรูปขนาดใหญ่จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและนำความสงบสุขมาสู่แผ่นดิน
  2. การสร้างพระไดบุทสึ (Great Buddha of Nara)
    พระไดบุทสึ หรือ พระพุทธรูปองค์ใหญ่แห่งนารา เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงถึง 15 เมตร น้ำหนักกว่า 500 ตัน การสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ต้องใช้ช่างฝีมือจากทั่วประเทศและทรัพยากรจำนวนมหาศาล โดยการหล่อพระพุทธรูปสำเร็จในปี ค.ศ. 749 และเปิดให้ประชาชนได้สักการะในปี ค.ศ. 752
  3. การบูรณะวัดหลายครั้ง
    วัดโทไดจิเคยได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติและสงครามหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงสงครามกลางเมือง (Genpei War) และการจลาจลในยุคคามาคุระ (Kamakura Period) อย่างไรก็ตาม วัดได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่องจนกลับมาเป็นวัดที่ยิ่งใหญ่และงดงามดังเดิม
  4. การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
    เนื่องจากวัดโทไดจิเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ วัดจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของเมืองนาราในปี ค.ศ. 1998

สถาปัตยกรรมและจุดเด่นของวัดโทไดจิ

  1. วิหารไดบุทสึเด็น (Daibutsuden Hall)
    วิหารไดบุทสึเด็นเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวประมาณ 57 เมตร และกว้าง 50 เมตร ภายในวิหารประดิษฐานพระไดบุทสึ หรือพระไวโรจนะพุทธะ (Vairocana Buddha) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของวัด นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์สององค์ขนาบข้างองค์พระไดบุทสึ
  2. ประตูนันไดมง (Nandaimon Gate)
    ประตูนันไดมงเป็นประตูทางเข้าหลักของวัด สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม และมีรูปปั้นไม้ของเทพเจ้าผู้พิทักษ์สององค์ คือ นิโอ (Nio Guardians) ซึ่งแกะสลักด้วยความประณีตและถือเป็นผลงานศิลปะชั้นเยี่ยมจากยุคคามาคุระ
  3. หอคันนงโด (Kannon-do Hall)
    หอคันนงโดเป็นอาคารที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้คนมักมาสักการะเพื่อขอพรในเรื่องสุขภาพและความเมตตา
  4. สวนและบึงน้ำรอบวัด
    บริเวณรอบวัดมีสวนสวยงามและบึงน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การเดินเล่นและชมธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง

การขอพรที่วัดโทไดจิ

  1. ขอพรเรื่องสติปัญญาและความรู้
    เนื่องจากวัดโทไดจิเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและการเรียนรู้ ผู้คนจึงนิยมมาขอพรเกี่ยวกับสติปัญญา ความรู้ และความสำเร็จทางการศึกษา
  2. ขอพรเรื่องสุขภาพและความสงบสุข
    ผู้ที่มาสักการะพระไดบุทสึมักจะขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรง และให้ชีวิตมีความสงบสุข
  3. เสี่ยงเซียมซีและขอพรที่วิหารรอง
    นักท่องเที่ยวสามารถเสี่ยงเซียมซีได้ที่วิหารรองของวัด เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับชีวิตและอนาคต

เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นที่วัดโทไดจิ

  • เทศกาลโอมิซูโทริ (Omizutori Festival)
    จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นพิธีกรรมโบราณที่มีมาเกือบ 1,300 ปี ซึ่งพระสงฆ์จะถือคบไฟขนาดใหญ่เดินรอบระเบียงวิหารหลักในยามค่ำคืน เชื่อกันว่าผู้ที่ได้เห็นพิธีนี้จะได้รับพรและโชคลาภ

เวลาเปิด-ปิด และการเดินทาง

  • เวลาเปิดทำการ:
    เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
  • ค่าเข้าชม:
    • วิหารไดบุทสึเด็น: 600 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 300 เยนสำหรับเด็ก
    • ค่าเข้าชมส่วนอื่น ๆ ของวัดอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • การเดินทาง:
    • โดยรถไฟ: นั่งรถไฟสาย Kintetsu Nara Line หรือ JR Nara Line มาลงที่สถานี Nara แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที
    • โดยรถบัส: มีรถบัสหลายสายที่วิ่งผ่านบริเวณวัด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถบัสจากสถานี Nara ได้

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง

  1. การแต่งกาย:
    ควรแต่งกายสุภาพ และสวมรองเท้าที่สะดวกสบาย เนื่องจากต้องเดินชมบริเวณวัดที่กว้างขวาง
  2. ข้อควรปฏิบัติ:
    • ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัด เช่น ห้ามส่งเสียงดัง และไม่รบกวนผู้ที่มาสวดมนต์
    • ห้ามถ่ายภาพในบริเวณที่มีป้ายห้ามถ่ายภาพ และควรเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
  3. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม:
    ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่วัดโทไดจิสวยงามที่สุด เนื่องจากดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีจะสร้างบรรยากาศที่งดงามรอบวัด

ทำไมควรไปวัดโทไดจิ

  • ความสำคัญทางประวัติศาสตร์:
    วัดโทไดจิเป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาในยุคนารา
  • สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่:
    วิหารไดบุทสึเด็นและพระไดบุทสึเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่น
  • บรรยากาศสงบและร่มรื่น:
    วัดตั้งอยู่ในบริเวณที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ทำให้ผู้มาเยือนได้รับความสงบและผ่อนคลาย

การมาเยือน วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนานของพุทธศาสนาในญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้ไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองนารา หากคุณมาเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมแวะมาที่วัดโทไดจิเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนค่ะ 🌸✨

Previous Article

ดูดวงรายสัปดาห์ 20-26 มกราคม 2568 ราศีเมษ

Next Article

ผลหวยฮานอย "ฮานอย" วันนี้ 19/1/68